ป้ายกำกับ: storz-bickel

ในบทความนี้ เฮียจะอธิบายในรายละเอียด
ช่วงอุณหภูมิหลักๆ สามช่วง โดยเน้นความแตกต่าง และข้อดี-ข้อเสีย

***ก่อนอื่นขอแจ้งให้ทราบว่าประสบการณ์ของแต่ละคน
อาจจะได้ผลลัพท์แตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ ครับ ยกตัวอย่างเช่น
เครื่อง Vaporizer 2 เครื่อง 2 ยี่ห้อ ที่ตั้งอุณหภูมิเดียวกัน
บางครั้ง ไอระเหยที่ได้มาก็ต่างกัน เช่น เข้มบ้าง เบาบ้าง
นอกจากนี้ กัญชาแต่ละสายพันธุ์ ยังมีระดับของเทอร์พีน และแคนนาบินอยด์ที่แตกต่างกันอีก
ซึ่งจะส่งผลต่อกลิ่น รสชาติ อีกด้วย และสารประกอบอินทรีย์ต่างๆ เหล่านี้
ระเหยได้ที่อุณหภูมิแตกต่างๆ กันไปครับ

มาถึงตรงนี้แล้ว ท่านไม่ก็ต้องกังวลว่าจะต้องเรียนจบวิทยาลัยกัญชาศาสตร์ ถึงจะทำได้
เพียงใช้คำแนะนำ และทดลองกับการตั้งค่าต่างๆ ต่อไปนี้แบบง่ายๆ ครับ
แล้วปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเราก็พอ

อุณหภูมิเริ่มต้น (325-350°F / 163-177°C)
THC คือสารออกฤทธิ์ทางจิตหลักในกัญชา มีจุดเดือดที่ 315° F (157° C)
ถ้าไม่ต้องการสาร THC ให้เลือกไปที่อุณหภูมิต่ำกว่า 325° F (163° C)
อุณหภูมิช่วงนี้ทำให้เข้าถึงรสชาติของดอกสมุนไพร
ที่สดชื่น กลิ่นซิตรัส หรือกลิ่นสนที่ชัดเจน

ไอระเหยที่ได้จากจะเย็น นุ่ม ไม่ไอ และไม่แสบคอ
อาการที่จะเกิดขึ้น เช่น อาการหวาดระแวง ตาแดง นิดหน่อย
เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือเติมเบาๆ

• รู้สึกตัวเบาสบาย สงบ มีพลัง
• รสชาติของเทอร์พีนเข้มข้น สด รสเปรี้ยว มีกลิ่นสนนิดๆ
• ไอเย็นสบาย ไม่ไอ และไม่แสบคอ
• ผลข้างเคียงจากสูบ (ง่วง วิตกกังวล ตาแดง ปากแห้ง เป็นต้น)
• เหมาะสำหรับผู้เพิ่งเริ่มต้น หรือผู้ที่ต้องการชิมรสชาติของดอกสมุนไพรเดิมๆ
• เหมาะกับการพักผ่อนอยู่บ้าน กิจกรรมหรือท่องเที่ยวแบบสบายๆ

***Terpenes : A-pinene, β-caryophyllene, β-myrcene, d-limonene, citronellol
***Cannabinoids : Δ8THC, Δ9THC, CBD, CBG, CBC, THCa, CBDa

อุณหภูมิช่วงกลาง (350-400°F / 177-204°C)
จุดเริ่มต้นช่วงนี้ จะได้รับสาร Terpenes มากมาย
ไอระเหยหนา และอุ่นขึ้น ท่านจะได้ลิ้มรสชาติสาร Cannabinoids ที่มากขึ้น
มีรสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้น ไออุ่นพอเหมาะกำลังดี เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบสูบสมุนไพรเป็นประจำ

ช่วงอุณหภูมินี้ อาการหลังจากสูบ ที่เห็นอย่างเห็นได้ชัดเจน คือ
เนื่องจากสาร THC ในดอกสมุนไพร มีการระเหยมากขึ้น
ทำให้ร่างกายผ่อนคลายลง ร่าเริง และไม่เครียด มีสมาธิ โดยไม่รู้สึกง่วง
ช่วงอุณหภูมินี้เป็นพื้นฐานที่ลงตัว และที่ดีที่สุด 50/50
มันมาพร้อมเอฟเฟกต์ + รสชาติของสมุนไพร ในสัดส่วนที่ลงตัวพอดิบพอดีครับ

อุณหภูมิช่วงปลาย (400-430°F / 204-221°C)
สำหรับการสกัดสารแคนนาบินอยด์สูงสุด (THC, CBG หรือ CBD)
ไอระเหยร้อนขึ้น และมีรสชาติของสมุนไพรลดน้อยลง จะรู้สึก High ทันทีหลังจากสูบคำแรก
ช่วงนี้เหมาะที่สุดสำหรับใช้เวลากลางคืน เนื่องจากอาจจะทำให้ท่านรู้สึกง่วงนอนหนักได้
อาการอยู่ในสภาวะทิ้งตัว ถ้าได้นอนบนโซฟานุ่มๆ เปิดแอร์เย็นๆ ด้วยละก็
จะนึกว่าตัวเองตัวเบา เหมือนลอยไปบนก้อนเมฆ หรือไปในอวกาศประมาณนั้นเลย

*** การกระตุ้นของสารประกอบ THCv และ Humulene
ยังสามารถระงับความอยากอาหาร และช่วยระงับอาการเจ็บปวดได้อีกด้วย
(จะมากน้อยตามสายพันธ์กัญชาที่นำมาใช้)
โปรดศึกษาสายพันธ์กัญชาเพิ่มเติมที่ >> https://www.leafly.com/

อุณหภูมิช่วงนี้ สารเทอร์ปีน (Terpenes)
ในดอกสมุนไพร จะหมดลงอย่างรวดเร็ว
สำหรับคนที่สูบไม่สุด ไม่อิ่ม สายแข็ง อาจต้องมีซ้ำอีกรอบ ได้ตามสะดวก
แต่ก็ระวังเมากัญหน่อยน่ะครับ
เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการความสุด เมา และถึงใจ

ช่วงอุณหภูมินี้ อาการหลังจากสูบ ที่เห็นอย่างเห็นได้ชัดเจน คือ
-ความรู้สึกสบายตัว และผ่อนคลายอย่างทันที
-อาจทำให้เซื่องซึม หิวน้ำ ปากแห้ง
-สงบนิ่ง ไม่อยากไปใหน อยากนอน
*** การระเหยของอุณหภูมิช่วงนี้ จะทำให้ THC มีไอระเหยที่ร้อน
อาจทำให้มีอาการไอได้ ควรจิบน้ำ ก่อนสูบจะดีมาก
เพื่อลดอาการระคายคอครับ

อุณหภูมิช่วงนี้ จะได้รับสารเทอร์ปีน (Terpenes)น้อยลง
และได้รับสาร Cannabinoid ที่มากขึ้น
***การกระตุ้นของสารประกอบ THCv และ Humulene
ยังสามารถระงับความอยากอาหาร และช่วยระงับอาการเจ็บปวดได้อีกด้วย
(จะมากน้อยตามสายพันธ์กัญชาที่นำมาใช้)
โปรดศึกษาสายพันธ์กัญชาเพิ่มเติมที่ >> https://www.leafly.com/

***Terpenes : humulene, phytol, caryophyllene oxide
***Cannabinoids : Δ8 THC, Δ9THC, CBD, CBN, CBG, CBC, THCa, CBDa, THCv

จุดเดือดโดยเฉลี่ยของ THC, CBD และ Terpenes และ Cannabinoids ที่พบบ่อยที่สุดในกัญชา
สารประกอบอินทรีย์แต่ละชนิด มีแบบเฉพาะของตัวเอง
ดังนั้นท่านสามารถตรวจสอบโปรไฟล์สายพันธุ์กัญชาที่นำมาใช้งานเพิ่มเติมได้ที่ >> https://www.leafly.com/

ตารางจุดเดือด
สาร Cannabinoids และสาร Terpenes ในกัญชามีจุดเดือดที่แตกต่างกัน
ท่านสามารถใช้ตารางนี้ เปรียบเทียบตั้งค่าที่เครื่องได้เลย ว่าต้องการใช้สารอะไรจากกัญชาครับ

Cannabinoids :
– CBG : 126°F / 52°C
– THCa : 220°F / 104°C
– CBDa : 248°F / 120°C
– Δ9THC : 315°F / 157°C
– Δ8THC : 350°F / 177°C
– CBD : 356°F / 180°C
– CBN : 365°F / 185°C
– THCv : 428°F / 220°C
– CBC : 428°F / 220°C

การหาอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการอบสมุนไพร
ถ้าท่านยังไม่แน่ใจว่าควรตั้งค่า เครื่องของคุณที่อุณหภูมิเท่าไร?
และการตั้งค่าที่เหมาะสมที่สุดอาจเป็นเรื่องยาก สำหรับมือใหม่ หรือผู้เริ่มต้น
วิธีที่ดีที่สุดในการทดลองคือ ให้เริ่มที่ช่วง 350-400°F (177-204°C)
จากนั้นค่อยๆ เพิ่มหรือลดทีละ 5-10° (หรือ 1°C)
ลองเล่นดูไปเรื่อยๆ ในที่สุดท่านจะพบอุณหภูมิที่เหมาะสมกับตัวท่านเองครับ

หากดอกสมุนไพรของท่านมีความชื้นเกินไป ความร้อนส่วนใหญ่จะสูญเสียไปกับการอบดอกให้แห้งก่อน
Vaporizer จะทำไอระเหยได้ดีก็ต่อเมื่อ ดอกสมุนไพรที่แห้งดีแล้วเท่านั้น!!!

ถ้าดอกสมุนไพร ไม่แห้งดี แนะตากให้แห้ง ก่อน หรือบดสมุนไพร เพื่อให้แห้งเร็วขึ้นก็ได้
แล้วตากอย่างน้อย 3-6 ชั่วโมง หรือ 1 วัน

ในปัจจุบัน Vaporizer รุ่นใหม่ๆ บางรุ่น อบระเหยสารเข้มข้นได้แล้ว
อุณหภูมิที่ดีที่สุดสำหรับระเหยความเข้มข้นของ CBD โดยทั่วไปจะสูงกว่าดอกสมุนไพรทั่วไป
หลักการทั่วไป เข้าใจง่ายๆ ประมาณนี้
– ความร้อนน้อยลง = รสชาติ กลิ่น จะชัดเจน
– ความร้อนมากไป จะสูญเสียเทอร์พีน และรสชาติอันมีค่าไป
– อุณหภูมิที่ต่ำกว่านั้น เหมาะสำหรับการใช้งาน ในตอนเช้า และตอนกลางวัน
– อุณหภูมิที่สูงกว่านั้น เหมาะสำหรับการใช้งานตอนเย็น หรือช่วงกลางคืนมากกว่าครับ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
LINE ID : @Slowlife
เติม @ ด้วยนะครับ

คะแนน Mighty+ : 9.3/10
ใช้งานง่าย : 10/10
การตั้งค่าอุณหภูมิ : 9/10
Chamber & ระบบทำความร้อน : 10/10
คุณภาพไอ : 10/10
อายุการใช้งาน แบตเตอรี่ : 9/10
สุนทรียศาสตร์และคุณภาพการผลิต : 8/10

ในที่สุด Mighty Plus Vaporizer ที่สหายทุกคนรอคอย ก็ได้รับการเปิดตัว สู่สาธารณะในวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2564
ย้อนกลับไปในปี 2000 ทางผู้ผลิต Storz & Bickel ได้เริ่มต้นผลิตเครื่องทำอบสมุนไพรแบบไอระเหย
ด้วยการเปิดตัว Volcano Classic ในตำนานออกมา
และในปี 2014 พวกเขาก็เปิดตัวเครื่องอบสมุนไพรพกพารุ่นถัดมาอีกครั้ง กับการเปิดตัว Mighty Vaporizer
ดั้งเดิม ซึ่งปฏิวัติวิธีการสูบกัญชาแบบดั้งเดิมทั้งหมด เป็นที่ถูกอกถูกใจสำหรับผู้ชื่นชอบการสูบกัญชาในยุคนั้นเป็นอย่างมาก
และต่อๆ มาอุปกรณ์ทั้งสองตัวนี้ ก็ถูกกำหนดเป็นมาตรฐานการผลิต และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพการผลิตเครื่องไอระเหยส่งต่อๆ กันมา

ดังนั้นด้วยการเปิดตัว Mighty+ ล่าสุด เครื่องจะจัดอยู่ในอันดับที่เป็นหนึ่งในเครื่องทำไอระเหยสมุนไพรแห้งแบบพกพาที่ดีที่สุดหรือไม่
คุ้มค่าที่จะอัพเกรดจากเดิมหรือไม่? ในการตรวจสอบนี้ เฮียจะพูดถึงคุณสมบัติหลัก
ข้อดี-ข้อเสียทั้งหมด รวมทั้งให้คำแนะนำและเคล็ดลับที่ดีที่สุดของ Mighty Plus แก่ผู้ที่สนใจครับ

ใช้สำหรับ	ดอกสมุนไพร + Wax
ระบบชาร์จ	ใช่
แบตเตอรี่แบบถอดเปลี่ยน	ไม่ได้
เวลาในการชาร์จ	2-3 ชั่วโมง
พอร์ตชาร์จ	USB-C
อายุการใช้งานแบตเตอรี่	60-90 นาที
ระบบทำความร้อน	ไฮบริด
ระยะเวลาอุ่นเครื่อง	60 วินาที
การควบคุมอุณหภูมิ	ความแม่นยำ
ช่วงอุณหภูมิ	40C–210C / 104F–410F
ขนาดเตาอบ	0.3g
Vapor Path Way	Ceramic + Plastic
อุปกรณ์เสริม	Mouthpieces + Stand
การแจ้งเตือนการสั่นสะเทือน	ใช่
เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว	ไม่
ระยะเวลาการรับประกัน	2 ปี / 3 ปี ทะเบียน
สะดวกในการใช้งาน	10/10
คุณภาพไอระเหย	10/10
คุณภาพการผลิต	8/10
ทำความสะอาดง่าย	7/10
การพกพา	8/10
ความทนทาน	8/10

ในกล่องมีอะไรให้มาบ้าง

• เครื่อง Mighty+
• สายชาร์จ USB-C
• ตะแกรงและแหวนรองอะไหล่ 3 ชุด
• แคปซูล
• แปรงทำความสะอาด
• คู่มือการใช้งาน

Storz & Bickel จะให้การรับประกันของผู้ผลิต 2 ปี สำหรับข้อบกพร่องในตัวเครื่อง
หรือสูงสุด 3 ปี เมื่อลงทะเบียน S/N บนเว็บไซต์ https://www.storz-bickel.com/en/
(อันนี้สำคัญมาก ซื้อเครื่องอย่าลืมลงทะเบียนกันด้วยนะครับ)

คุณสมบัติที่สำคัญของ Mighty Plus
Storz & Bickel เป็นแบรนด์ผู้ผลิตเครื่องสูบไอระเหยชั้นนำ ห้าอันดับแรก ที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้มานานกว่า 20 ปี
ด้วยประสบการณ์ +ความเชี่ยวชาญของพวกเขา ทำให้เครื่องอบลมร้อน มีความแตกต่างตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว
ด้วยนวัตกรรมสุดยอด ที่พวกเขาคิดค้นขึ้นมา

– Mighty Plus ได้รับการอัปเกรดห้องอบสมุนไพรใหม่ ด้วยการเคลือบผิวเซรามิก
– การชาร์จไฟด้วยพอร์ต USB-C
-ระบบเวลา ในการทำความร้อนที่ดีขึ้น
-หน้าจอ LED ที่อ่านง่าย ปุ่มควบคุมอุณหภูมิใช้งาน สะดวก เรียบง่าย

Mighty และ Mighty+ ต่างกันอย่างไร ?
การอัพเกรดที่สำคัญที่สุดคุณสมบัติใหม่ Mighty Plus คือมีพอร์ตการชาร์จจะเป็น USB-C จากรุ่นเก่าจะเป็นพอร์ตชาร์จ DC
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคู่ ยังได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น ใช้เวลาอุ่นเครื่อง 60 วินาที ต่างจากรุ่นเดิม 90 วินาที
แม้ว่า Mighty Plus จะใช้เวลาในการชาร์จสามชั่วโมง
แต่ก็มีตัวเลือกที่จะลดเวลาการชาร์ทนั้นลง เหลือหนึ่งชั่วโมงด้วยอุปกรณ์เสริมซุปเปอร์ชาร์จเจอร์ (ที่ชาร์จแบบเร็ว)
ที่มีจำหน่ายแยกต่างหาก
Mighty+ มีห้องอบที่บุด้วยเซรามิกอีกด้วย เมื่อเทียบกับอะลูมิเนียมบริสุทธิ์ของรุ่น Mighty เดิม
รุ่นใหม่จะช่วยให้การทำความสะอาดง่ายขึ้น และลดรอยขีดข่วน
สุดท้ายนี้ ขาตั้งได้รับการอัพเกรดให้ใหญ่ขึ้นเพื่อให้มีความมั่นคงมากขึ้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
LINE ID : @Slowlife
เติม @ ด้วยนะครับ

Migthy เครื่องอบไอสวรรค์ สุดคลาสสิค ถือกำเนิดขึ้นมาครั้งแรกเมื่อปี 2015
ผลิตโดยบริษัทฯ Storz & Bickel ถือเป็นบริษัทฯ เดียวที่ผลิตเครื่องอบสมุนไพร
แบบลมร้อนเกรดการแพทย์ “Medical Herbal Hot Air“

Migthy ออกแบบมาอย่างเรียบง่าย และใช้งานได้ง่าย มีปุ่มเพียง 3 ปุ่มดังนี้
ปุ่มด้านข้างตัวเครื่องเป็นปุ่ม เปิด-ปิด
ส่วนบนหน้าจอจะมีปุ่ม สามเหลี่ยม ชี้ขึ้น – ชี้ลง สำหรับปรับอุณหภมูิขึ้นลง
และมีหน้าจอดิจิตอลแสดงอุณหภูมิ มีระบบสั่นเตือนเมื่อถึงอุณหภูมิที่ตั้งไว้
และสั่นเตือนติดต่อกัน 4 ครั้งเมื่อการอบสมุนไพรสิ้นสุดลง จากการสูบ
และหน้าจอจะดับ ตัดการทำงานของเครื่องไป เพื่อให้ห้องอบเย็นลง และเริ่มต้นระบบใหม่ …

ตัวเครื่องออกแบบ มีขนาดใหญ่เล็กน้อย มีครีบระบายความร้อนรอบตัว ช่วยให้เครื่องไม่ร้อน
เมื่อเดินเครื่อง Heat สมุนไพร จะรู้สึกอุ่นมือทุกครั้งที่จับ เป็นเรื่องธรรมดา ของทุกๆ รุ่น
ที่ตัวเครื่องจะอุ่นหรือร้อน
เด็ดไปกว่านั้นก็คือ Mighty ฝาล็อค Air Flow Cooline ทำควันเย็นได้ค่อนข้างจะดีมาก
แถมมีอุปกรณ์เสริมให้เลือก Join Connect ได้หลายอย่าง รอบหน้า เฮียจะมาเล่าให้ฟังกัญครับ

Mighty+ รุ่นใหม่พัฒนาห้องอบเคลือบเซรามิค ทำความสะอาดง่ายกว่าเดิม
และให้แบตเตอรี่ใหม่เก็บไฟได้เพิ่มมากขึ้น

“ถึงตัวเครื่องจะมีขนาดใหญ่เล็กน้อย ก็ไม่เป็นอุปสรรคในเรื่องการพกพา แต่อย่างใด”

ถ้าท่านเป็นคนที่ชื่นชอบการสูบกัญชาเป็นประจำ มีดอกกัญชาออแกนิคดีๆ สายพันธุ์โปรดที่ใช่
และอยากดูแลสุขภาพด้วย Vaporizer ดีๆ แจ่มๆ ซักตัว ที่มีความเสถียร ระบบใหญ่
ขุมพลังผลิตไอระเหย แบบแน่นๆ ทำงานเต็มสูบล่ะก็ ไม่ควรพลาดด้วยประการใดๆ ทั้งปวงครับ “Mighty” คือคำตอบครับท่าน

“ไปให้สุด แล้วหยุดอยู่บนก้อนเมฆ”

มองหาเครื่องอบสมุนไพรกัญ เขียวๆ เหนียวๆ หอมๆ
ให้ไอระเหย ที่สะอาด ดีต่อสุขภาพ
แอดไลน์หาเฮียครับ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
LINE ID : @Slowlife
เติม @ ด้วยนะครับ